คือเกิดการเอียงของข้อเท้าเข้าด้านในและอุ้งเท้าแบนราบ ทำให้มีการลงน้ำหนักที่ฝ่าเท้าด้านในมากเกินไปในขณะยืน เดิน หรือวิ่ง โดยเป็นความผิดปกติที่ยังไม่พบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด บางคนมีภาวะเท้าล้มหรือเท้าแบนแต่กำเนิด ในขณะที่บางคนมีลักษณะกิจกรรมหรือการใช้ชีวิตที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นเท้าแบน อุ้งเท้าอ่อนแรง หรือเท้าล้มได้ โดยคนเท้าแบนส่วนมากมักจะมีอาการปวดต่าง ๆ บริเวณขาและเท้าได้ เนื่องจากการลงน้ำหนักที่เท้าไม่เหมาะสมทำให้เท้าไม่สามารถกระจายน้ำหนักตัวได้ดี จึงเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของโครงสร้างเท้าและยังส่งผลต่อการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆไม่ว่าจะเป็นเข่า หรือสะโพกร่วมด้วยได้
ภาวะเท้าล้มและเท้าแบนมักจะเป็นภาวะที่พบร่วมกันบ่อยครั้ง แต่ความจริงแล้วภาวะเท้าแบน เป็นลักษณะของการไม่มีอุ้งเท้าด้านในทำให้ฝ่าเท้าทั้งหมดแตะพื้น แตกต่างจากภาวะเท้าล้มซึ่ง จะมีการเคลื่อนไหวของเท้าขณะทำกิจกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การยืน การเดินหรือการวิ่ง ซึ่งภาวะนี้จะนำไปสู่แรงที่เปลี่ยนไปของเท้าและขา ทำให้ข้อเท้าเฉียงเข้าด้านในเมื่อมองจากด้านหลัง
โดยทั่วไปในเด็กเล็กที่มีอายุก่อน 2 ปีจะไม่สามารถบอกได้ว่าเด็กเท้าแบนหรือไม่เนื่องจากในเท้าของเด็กเล็กจะมีเนื้อเยื่อไขมัน เป็นส่วนมากเนื่องจากยังไม่ค่อยได้ยืน และเมื่อต้องเริ่มฝึกยืนหรือเดินหรือลงน้ำหนัก อุ้งเท้าด้านในจึงจำเป็นในการช่วยรองรับน้ำหนักของร่างกายขณะยืนและช่วยกระจายน้ำหนักขณะเดิน
อุ้งเท้าตามแนวยาวทางด้านใน (medial longitudinal arch) จะเริ่มแสดงให้เห็นในช่วงอายุระหว่าง 2-3 ปี และพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ (สูงขึ้น) เมื่อเด็กโตเข้าสู่ช่วงวัยเรียน โดยจุดสูงสุดของโค้งกระดูกเท้าเมื่อพัฒนาเต็มที่จะสูงจากพื้นประมาณ 18-20 มิลลิเมตร ผู้ปกครองอาจสังเกตเห็นความผิดปกติได้ด้วยตนเอง และพบนักกายภาพบำบัดหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจประเมินและหาแนวทางป้องกันที่เหมาะสม
ภาวะเท้าแบนในเด็กอาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งทางพันธุกรรมและพฤติกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดภาวะนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมที่อาจทำให้เกิดแรงกดทับที่เท้ามากเกินไป หรือส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและเอ็นที่เท้า ซึ่งบางกิจกรรมอาจเป็นกิจกรรมที่ไม่ทันได้ระวังและมองข้ามไป ยกตัวอย่างเช่น
จากปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนเป็นปัจจัยภายนอกที่เราสามารถป้องกัน แก้ไขได้ หากผู้ปกครองได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญ และนำไปสังเกต ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงบุตรหลานของท่าน ให้บุตรหลานของท่านยังคงได้เล่นสนุกกับกีฬา หรือกิจกรรมที่เขาชื่นชอบ ได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล และยังไม่ต้องรับความเสี่ยงการเท้าล้ม เท้าแบนได้อีกด้วย โดยทางทีม vitala ของเราใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะช่วงวัยเด็กเป็นช่วงวัยที่ร่างกายต้องได้รับการดูแล ฝึกฝน ที่ถูกต้อง รองรับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยเด็กที่เข้ารับการเทรนโปรแกรมเตรียมความพร้อมนักกีฬากับทาง vitala ส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มนักกีฬาที่ต้องเทรนเพื่อเพิ่มสมรรถภาพ ให้ถึงขีดความสามารถสูงสุด ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าอาจจะต้องมีการใช้งานร่างกายค่อนข้างหนักอยู่เป็นประจำ ทั้งในระหว่างการฝึกซ้อม และการแข่งขัน นอกจากนี้ในเด็กที่เข้ารับการเทรนโปรแกรมเทรนกล้ามเนื้อและข้อต่อในเด็กและกระตุ้นความสูง หรือเด็กที่มีภาวะน้ำเกินที่เข้ามารับการเทรนเพื่อเพิ่มกิจกรรมทางกายเองก็ตาม ก็ไม่ควรมองข้ามอวัยวะที่เป็นรากฐานของร่างกายซึ่งก็คือเท้าทั้ง 2 ข้างของเรานั่นเอง ทางทีม vitala ได้มองเห็นถึงความสำคัญในส่วนนี้ จึงจัดให้มีโปรแกรมตรวจประเมินเท้าล้ม เท้าแบน ในเด็ก ควบคู่ไปกับการตรวจประเมินสมรรถภาพทางกายด้านอื่นๆด้วย ซึ่งหากตรวจพบว่ามีภาวะเสี่ยงก็จะออกแบบโปรแกรมการฝึกที่เหมาะเพื่อพัฒนาในส่วนของอุ้งเท้าด้วยการให้ท่าบริหารที่เหมาะสม หรือในบางรายที่อาจแนะนำให้ทำแผ่นเสริมรองเท้าเฉพาะบุคคล ที่ทำการวัดโดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มีการรองรับอุ้งเท้าที่ดี จัดตำแหน่งที่ถูกต้องของเท้า ช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บของขาและเท้า และไม่ให้มีการล้มของเท้าไปมากกว่าเดิม
วิธีทำ: วางผ้าหรือพรมเช็ดเท้าไว้ใต้เท้า ใช้นิ้วโป้งเท้าทั้งสองข้างดึงผ้าขนหนูเข้าหาตัว ทำซ้ำ 5 ถึง 10 ครั้งต่อเซท
ประโยชน์: เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้งเท้า
วิธีทำ: ให้วางเท้าข้างหนึ่งไว้ข้างหน้าอีกข้างประมาณหนึ่งก้าว ปลายเท้าทั้งสองข้างชี้ตรง งอขาหน้าแล้วดันไปข้างหน้าโดยลงน้ำหนักทั้งหมดไปที่เท้าหน้าพร้อมทั้งยืดตัวให้ตรง ค้างท่าไว้สูงสุด 30 วินาที แล้วสลับข้าง
ประโยชน์: คลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อน่องและเอ็นร้อยหวาย
วิธีทำ: ยืนตัวตรงแล้วยกส้นเท้าทั้งสองข้างขึ้นจากพื้นให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ค้างไว้ 5 วินาทีก่อนจะลดเท้าลง ทำซ้ำ 15 ถึง 20 ครั้งต่อเซ็ต
ประโยชน์: เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อน่องและเพิ่มความมั่นคงของข้อเท้า
วิธีทำ: ยืนตัวตรงแล้วยกขาขึ้นข้างหนึ่ง ค้างไว้อย่างน้อย 10 วินาที แล้วสลับข้าง สามารถเพิ่มความยากโดยการยืนให้นานขึ้นหรือยืนบนพื้นนิ่มได้ตามความเหมาะสม
ประโยชน์: ฝึกการทรงตัวเพื่อเพิ่มความมั่นคงของข้อเท้า
วิธีทำ: นอนตะแคง งอเข่าและสะโพกเข้าหากัน กางและหุบเข่าโดยให้ข้อเท้าชิดกันเหมือนเปลือกหอย ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง แล้วสลับข้าง สามารถใช้แถบยางยืดรอบต้นขาพื่อเพิ่มแรงต้านได้ตามความเหมาะสม
ประโยชน์: เพื่อเสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อสะโพกด้านข้างและชดเชยการลงน้ำหนักที่มากเกินไปของฝ่าเท้าด้านใน
คลินิกกายภาพของเรายินดีให้คำปรึกษา และบริการฟื้นฟูสุขภาพ และการรักษาโรคทางกายภาพทุกรูปแบบ ที่นี่เราให้ความสำคัญกับการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ และการออกแบบโปรแกรมฟื้นฟูด้านกายภาพออฟฟิศซินโดรม นวดรักษาอาการ กายภาพบำบัดเส้นเอ็นอักเสบ กายภาพบําบัดหลังผ่าตัดข้อเข่า – ปวดสะโพกร้าวลงขา หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังเสื่อม กายภาพบำบัดไหล่ติด นิ้วล็อค ด้วยเครื่อง PMS กายภาพ รวมถึงให้บริการนวดสปอร์ต กายภาพบำบัดที่บ้าน และฝังเข็มแก้ปวด โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพบำบัด และนักกายภาพบำบัดที่มีประสบการณ์สูง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกท่านอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
Copyright @2025 Vitala